เจ้าหญิงน้ำแข็งแห่งวงการฮอกกี้ไทย “น้ำตาล วิลาสินี” กว่าจะเป็นวันนี้ได้ เธอต้องสู้เท่านั้น !

น้องน้ำตาล วิลาสินี รัตนนัย สาวสวยดีกรีนักกีฬาฮอกกี้ทีมชาติไทย เจ้าของฉายา เจ้าหญิงน้ำแข็ง เธอผู้นี้ไม่ได้ทุกอย่างมาโดยง่าย กว่าจะมาเป็นกองหน้าของทีมชาติไอซ์ฮอกกี้หญิงไทย เธอต้องใช้ความมุ่งมั่น และความพยายามเป็นอย่างมาก ชีวิตของเธอนั้นไม่ได้สวยงามเหมือนดั่งเจ้าหญิงในนิยาย แต่ถ้าจะพูดถึงความเป็นนักสู้ เธอคนนี้ก็ต้องผ่านอะไรมามากมายและน่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับใครหลายคน

น้ำตาล ก่อนจะมาเป็นนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ เธอเกิดและโตที่จังหวัดพะเยา แต่เมื่อคุณพ่อของเธอได้เสียชีวิตไป ชีวิตของน้ำตาลกลับพลิกผัน ครอบครัวต่างมีปัญหาจนทำให้เธอต้องตัดสินใจออกจากโรงเรียนในขณะที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 4 และอายุได้เพียง 15 ปีเท่านั้น

สาวน้อยคนนี้เมื่อตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตให้กับตัวเองแล้ว ไม่ได้ท้อถอยกับโชคชะตาของตัวเอง น้ำตาลได้มุ่งมั่นเข้ามาหางานทำในเมืองกรุงเทพ ฯ เพื่อหาเลี้ยงตัวเอง โดยเธอมีคติที่ว่าคนเราท้อได้ แต่ถ้าคิดได้ก็จะผ่านเรื่องแย่ไปได้ในที่สุด

น้องน้ำตาลเมื่อได้เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ เธอได้ไปขออาศัยอยู่กับพี่สาวที่สนิทกันในวัยเด็กและเริ่มออกหางานทำเพียงเพื่อจะได้มีเงินไว้ใช้จ่ายและเลี้ยงดูตัวเองได้ งานแรกของน้ำตาลที่ได้ทำคือการเป็นลูกจ้างร้านขายเสื้อผ้า และเธอยังหางานทำอีกหลาย ๆ งานเพื่อที่จะได้เงินไม่ว่าจะต้องยกของ แบกของต่าง ๆ เธอทำทุกงาน แม้ว่าจะได้ค่าจ้างเพียงน้อยนิด แต่เธอก็ไม่เคยดูถูกค่าของเงิน บางวันต้องทำงานจนถึงเช้าและทำแบบนี้อยู่ประมาณ 2 ปี

มีบางช่วงชีวิตที่ท้อแท้แต่ไม่เคยหมดหวัง น้ำตาลไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา ยังคงตั้งใจทำงานสุจริตมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าจะมีคนชักชวนเธอไปทำงานที่สถานบันเทิงที่อาจจะได้เงินเยอะและสบายกว่าที่เป็นอยู่ แต่ด้วยความไม่คิดทำอะไรที่เสี่ยงต่ออนาคตของตัวเอง เธอยังคงมุ่งมั่นตั้งใจหางานที่แม้จะหนักและเหนื่อยกว่า เงินน้อยกว่า แต่เธอบอกว่าเธอรู้สึกสบายใจมากที่สุด

จนกระทั่งน้ำตาลสามารถเก็บเงินได้ในเวลาอันรวดเร็ว เธอจึงย้ายออกมาหาที่อยู่เอง และทำงานเก็บเงินเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนจนจบในระดับ ปวส. และเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงด้วยเงินที่เธอทำงานหามาเองทั้งหมด

ทัศนคติที่ดีและความพยายามมุ่งมั่น ทำให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้นจนทุกวันนี้

เจ้าของฉายาเจ้าหญิงน้ำแข็งคนนี้ ได้เดินทางชีวิตด้วยความพยายามและมุ่งมั่นทำสิ่งที่ดีมาโดยตลอดจนชีวิตของเธอดีขึ้นเรื่อย ๆ และจากการที่ได้ไปเล่นสเกตน้ำแข็งกับเพื่อนเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่นำพาเธอเข้าสู่วงการไอซ์ ฮอกกี้แบบไม่รู้ตัว

เธอไม่เคยมีพื้นฐานของการเล่นสเกตมาก่อนเลย และคิดว่าจะไม่เล่นกีฬาประเภทนี้อีกเพราะค่าใช้จ่ายสูงและด้วยความยากนั่นเอง แต่แล้วเธอก็ได้รับโอกาสจากเจ้าหน้าที่ในลานสเกต ที่เธอเคยถูกชนจนล้มลง ซึ่งอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้เธอได้รับโอกาสที่ดีมาก เพราะเจ้าหน้าที่คนนั้นตอบแทนน้ำตาลด้วยการสอนวิธีการเล่นสเกตที่ถูกต้องให้เธอฟรีและสามารถเข้าไปเล่นได้ทุกวัน จนน้ำตาลรู้สึกชอบกีฬาชนิดนี้ขึ้นเรื่อย ๆ โดยใช้เวลาหลังเลิกงานไปฝึกซ้อมสเกตทุกวัน จนได้มาเป็นโค้ชให้กับเด็ก ๆ ที่มาฝึกเล่นสเกตในตอนนั้นจนมีโอกาสได้ไปคัดตัวนักกีฬาทีมชาติไทย จนได้ติดทีมชาติแล้วแต่เธอกลับป่วยและต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น !

แต่ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นเมื่อเธอพักรักษาตัวจนหาย น้ำตาลไม่รอช้าที่จะกลับมาเป็นโค้ชฝึกสอนสเกตและเริ่มหางานทำอีกครั้ง จนเมื่อน้ำตาลสามารถเก็บเงินได้จากการเป็นโค้ชสอนสเกต เธอจึงเริ่มนำเงินไปซื้อชุดกีฬาและอุปกรณ์มือสองมาจากรุ่นพี่และเริ่มไปฝึกซ้อมไอซ์ ฮอกกี้ แม้ว่าจะต้องเจออุปสรรคในเรื่องค่าใช้จ่าย แต่น้ำตาลก็พยายามไม่ละทิ้ง จนเล่นได้ประมาณ 7 เดือนจนได้ไปคัดตัวทีมชาติจนได้ติดทีมชาติไอซ์ฮอกกี้หญิงในที่สุดและเป็นตำแหน่งกองหน้าที่พร้อมทั้งความสามารถและความน่ารักจนได้รับฉายาเจ้าหญิงน้ำแข็งมาถึงทุกวันนี้

นี่จึงเป็นเรื่องราวทั้งหมดของสาวน้อยน้ำตาล ดีกรีนักกีฬาไอซ์ ฮอกกี้หญิงทีมชาติไทยที่สามารถตอกย้ำได้ว่าความสำเร็จนั้นต้องเริ่มมาจากความพยายามและความมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย เธอจึงเป็นแบบอย่างที่ดีมากสำหรับใครที่ต้องการก้าวไปข้างหน้าเพื่ออนาคตที่ดี